ขับรถลุยฝน

ขับรถลุยฝน การรับมือเมื่อฝนตกถนนลื่น ขับขี่อย่างไรให้ปลอดภัย

ทริกการขับรถฝ่าฝนที่ปลอดภัย

พอเข้าสู่หน้าฝน พื้นที่หลายพื้นที่ก็เต็มไปด้วยเม็ดฝนที่ตกลงมาจากฟ้า หน้าฝนเดือนไหน 2566 ต้องระวัง ซึ่งนอกจากมอบความชุ่มฉ่ำแล้ว ยังมีความเทอะทะจากดินโคลนที่ไหลลงมาจากภูเขาอีกด้วย สร้างความลำบากในการสัญจรไปมา ผู้ที่ขับขี่รถยนต์อาจจะมีหลังคาบังฝน แต่ทัศนวิสัยหน้ารถที่เม็ดฝนปกคลุมอยู่ รวมถึงถนนหนทางที่เต็มไปด้วยน้ำขัง กรวดหิน และดินทราย อาจจะเป็นปัญหาที่ทำให้รถเสียหลัก หากไม่ขับอย่างระมัดระวัง การขับรถลุยฝนจึงมีเรื่องที่ควรระวัง ดังนี้

การเตรียมตัวก่อนฝนตก

การเตรียมตัวก่อนฝนตก

ช่วงที่เข้าสู่หน้าฝน คนที่ขับรถไปทำงานต้องตรวจเช็กสภาพรถอย่างละเอียด เพื่อให้รถพร้อมต่อการใช้งานในช่วงหน้าฝน มีสิ่งที่ต้องตรวจเช็ก ดังนี้

  • ระบบไฟรอบตัวรถ

การสัญจรช่วงฝนตก เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ระบบไฟมีความสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าที่ต้องเปิดเพื่อส่องสว่าง รวมถึงไฟตัดหมอกในช่วงที่ทัศนวิสัยไม่ดีถึงขีดสุด ไฟเลี้ยวที่ต้องพร้อมใช้งานเพื่อให้สัญญาณรถคันอื่น ๆ เมื่อถึงเวลาเลี้ยว รวมถึงไฟฉุกเฉินที่มีหลักการในการเปิดไฟฉุกเฉินเมื่อมีความจำเป็น

  • ระบบเบรก

เพื่อสร้างความปลอดภัยขณะขับขี่ ระบบเบรกเป็นอะไรที่ต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากเบรกช่วยชะลออและหยุดรถ ช่วงฝนตกมีโอกาสสูงมากที่รถจะติด ไม่ว่าจะมาจากเหตุฝนตกถนนลื่น คนจึงขับช้าลง เพื่อเพิ่มความปลอดภัย หรืออุบัติเหตุที่มักเกิดช่วงฝนตกทำให้รถติด การรวจสอบระบบเบรกให้ใช้งานได้ดีจึงช่วยในการขับรถหน้าฝนไม่น่ากังวลมาก

  • ยางรถยนต์

การขับรถในหน้าฝนจะต้องมียางรถยนต์ที่คุณภาพดี ดอกยางยังคงใช้งานได้ วิธีการสังเกตดอกยางเบื้องต้นคือการสำรวจความลึกของดอกยาง หากดอกยางลดระดับลงมาจนเท่ากับสะพานยาง นั่นเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่ ควรมียางอะไหล่รถยนต์สำรองไว้ด้วย เมื่อถึงคราวจำเป็นจะได้เปลี่ยนได้ทันเวลา

วิธีการเตรียมตัวก่อนในตกจะเน้นที่การตรวจเช็กสภาพรถให้มีความพร้อมรับสถานการณ์การขับขี่ต่าง ๆ ขณะที่ฝนตก นอกจากนั้นไม่ควรลืมเซฟเบอร์โทรฉุกเฉิน เช่น เบอร์ตำรวจ เบอร์ร้านยาง เบอร์ประกันรถยนต์เอาไว้ด้วย เมื่อเกิดเหตุจะได้แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ทัน

การขับรถขณะที่ฝนตกหนัก

การขับรถขณะฝนตกหนัก

เมื่อฝนตกหนักแต่จำเป็นต้องขับรถ ควรรู้วิธีการขับรถฝ่าฝนตกหนักอย่างปลอดภัยเสียก่อน เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกลางทาง มีแนวทางการขับขี่ ดังนี้

  • หากไม่จำเป็นควรรอให้ฝนหยุดตกเสียก่อน เพราะฝนตกหนักทำให้ทัศนวิสัยการขับขี่แย่ และถนนค่อนข้างลื่น
  • ขับรถด้วยความเร็วต่ำ และควรทิ้งระยะห่างจากรถคันข้างหน้าให้มากขึ้น
  • เปิดที่ปัดน้ำฝนเอาไว้ตลอดเวลา ไม่ควรรอให้ฝนเกาะเต็มกระจกจึงค่อยปัดน้ำฝน
  • เปิดไฟเลี้ยวให้สัญญาณเลี้ยวแก่รถคันอื่น ๆ ทุกครั้งก่อนจะเลี้ยว

วิธีการขับรถลุยน้ำท่วม

ในช่วงที่ฝนตกหนักอาจจะเจอทางที่น้ำท่วมขังได้ การรู้วิธีรับมือจะช่วยถนอมเครื่องยนต์ระหว่างขับรถลุยน้ำท่วม สามารถปฏิบัติได้ดังนี้

  • ขับช้า ๆ และควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่น้ำท่วมถึงใต้ท้องรถ
  • ปิดแอร์ เพื่อปิดไม่ให้เครื่องยนต์มีน้ำทะลักเข้ามาได้
  • หากรถดับกลางทาง อย่าสตาร์ทรถใหม่ เพราะจะทำให้น้ำเข้ามาในเครื่องยนต์ได้
  • เมื่อเลยจุดน้ำท่วมแล้วให้เหยียบเบรกหรือคลัตช์ย้ำ ๆ เพื่อไล่น้ำออกจากตัวรถ
  • เมื่อถึงที่หมายให้จอดรถทิ้งไว้สักครู่ เพื่อให้น้ำที่อาจเข้าสู่เครื่องยนต์ระเหยออกให้หมด

การขับรถหลังฝนตก

การขับรถหลังฝนตก

ในช่วงที่ฝนเพิ่งหยุดตก ถนนยังคงลื่น และมีเศษกิ่งไม้หักขวางทาง การขับรถหลังฝนตกมีข้อควรระวัง ดังนี้

  • พยายามอย่าขับเร็ว เพราะอาจจะเจอสิ่งกีดขวางที่ถูกพายุฝนพัดพามา ทำให้รถเสียหลักชนได้
  • เปิดกระจกลงเล็กน้อยเพื่อไล่ฝ้า แล้วค่อยปิดกลับมาเมื่ออุณหภูมิภายในและนอกตัวรถไม่ต่างกันเกินไป
  • หลีกเลี่ยงทางน้ำท่วมขัง ควรเช็กข่าวเส้นทางติดขัดในแต่ละพื้นที่ก่อนออกเดินทาง
  • ล้างรถให้สะอาด เอาเศษหินที่ติดตามล้อออก หรือจะใช้บริการล้างรถอัตโนมัติก็ได้

การขับรถช่วงฝนตกเป็นโอกาสที่เกิดอุบัติตุได้ง่าย ช่วงฝนตกถนนลื่นแบบนี้จึงควรรู้แนวทางการขับขี่รถเอาไว้ เพื่อถนอมรถให้ใช้ได้นาน ๆ เพราะรถเป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจของใครหลายคน เป็นยานพาหนะ เป็นแหล่งอาชีพ และยังเป็นทางออกเงินด่วนด้วยการขอสินเชื่อรถแลกเงินอีกด้วย การดูแลรถให้ใหม่ และใช้งานได้ดีเมือนเดิมจึงมีประโยชน์มากกว่าที่คิด

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *